简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
วิเคราะห์แนวโน้มทองคำ (XAUUSD) วันนี้
บทคัดย่อ:สรุป ราคาทองคําวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 6.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนในกรอบ 1,803.19-1,884.32 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สรุป ราคาทองคําวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 6.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนในกรอบ 1,803.19-1,884.32 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ ราคาทองคําปรับตัวขึ้นก่อนในช่วงเช้า ของตลาดเอเชีย ก่อนจะอ่อนตัวลงในช่วงต้นของตลาดยุโรป หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจของเยอรมนีที่ออกมาแย่เกินคาดซึ่งกตตันยูโรและทองคําให้ร่วงลงแตะระดับต่ําสุดในระหว่างวัน

อย่างไรก็ดี ราคาดีตตัวขึ้นแรงในเวลาต่อมาโดยได้รับแรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ10 ปีที่ร่วงสู่ระดับต่ำที่สุดในรอบกว่า 1 เดือนที่ 1.513% ซึ่งเป็นระดับต่ําที่สุด นับตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค. หลัง NFB เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดย่อมปรับตัวลงเกินคาดสู่ระดับ 99.6 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนทองคําในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนใน รูปแบบของดอกเบี้ยให้พุ่งขึ้นทดสอบระดับสูงสุดในระหว่างวันบริเวณ 1,903 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง แต่ราคาทองคําทิ้งตัวลงแรงจากแรงขายทํากําไรในเวลาต่อมา ขณะที่ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ10ปีฟื้นตัวขึ้นขานรับการเปิดเผยตัวเลขสหรัฐรายการอื่นที่ออกมาดีเกินคาด อาทิ ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐที่ลดลงสู่ระดับ 6.89 หมื่น ล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย. ต่ํากว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.90 หมื่นล้านดอลลาร์ และตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน พุ่งขึ้นเกินคาดสู่ระดับ 9.3 ล้านตําแหน่งในเดือนเม.ย. แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในเดือนธ.ศ.2000 ส่งผลให้ราคาทองคําย่อนตัวลงมาปิดตลาดบริเวณ 1,892.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้าน กองทุน SPDR ถือครองทองคําไม่เปลี่ยนแปลง สําหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งของสหรัฐ

หากราคาทองคําพยายามขึ้นไปทดสอบแนวต้านในโซน 1,912-1,917 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ระดับ สูงสุดของเดือนพ.ค.,มิ.ย.)แต่หากแรงซื อไม่มากพอหรือราคาไม่สามารถยืนได้อย่างแข็งแกร่ง ทํา ให้ประเมินว่าในระยะสั้น ยังคงมีโอกาสปรับตัวลงทดสอบแนวรับ 1,884 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ แนวรับถัดไปนั้นอยู่ในบริเวณ 1,869 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คําแนะนํา เข้าซื้อเพื่อเก็งกําไรระยะสั้น โดยรอจังหวะการ อ่อนตัวลงบริเวณโซน 1,884-1,869 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จึง ค่อยเข้าซื้อ หรือ หากราคาทองคําไม่สามารถยืน 1,9121,917 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ให้แบ่งทองคําออกขายเพื่อทํา กําไรบางส่วน แต่หากผ่านได้ให้ชะลอการขายออกไป

ถ้าโดนโบรกเกอร์ Forex โกงมาแนะนำให้คุณเข้าไปที่ การเปิดเผย ของแอพ WikiFX เพื่อแฉโบรกเกอร์ อย่าปล่อยให้คนโกงลอยนวล ยิ่งคุณแฉโบรกเกอร์จะยิ่งกลัว รีบบบบเลย แฉเรื่องถอนเงินไม่ได้ เรื่อนกราฟผิดปกติ Slippage มากกเกินไป ได้หมดทุกเรื่อง
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

ติดดอยเพราะทอง หรือเพราะใจ? ทำไมทองคำถึงพามือใหม่ขึ้นดอยได้ในพริบตา
การ “ติดดอยทองคำ” คือภาวะที่นักลงทุนซื้อทองในช่วงราคาสูง ก่อนที่ราคาจะร่วงลงจนเกิดการขาดทุน ซึ่งมักเกิดจากจิตวิทยาการลงทุน เช่น ความโลภและความกลัวพลาด (FOMO) ราคาทองคำโลกมีรอบขึ้นลงตามเศรษฐกิจ เช่น วิกฤตปี 2008 และช่วง COVID-19 ทำให้นักเทรดต้องเรียนรู้การวิเคราะห์จังหวะซื้อขายและควบคุมอารมณ์ บทเรียนสำคัญคือ “ติดดอยไม่ใช่ความล้มเหลว” แต่คือจุดเริ่มต้นของการเข้าใจตลาดและพัฒนากลยุทธ์การลงทุนอย่างมีวินัย

สินทรัพย์ปลอดภัยกลายเป็นดาบสองคม ทองคำกำลังเข้าสู่ยุคฟองสบู่? เสี่ยงติดดอย 20 ปี
ราคาทองคำร่วงแรงกว่า 5.5% ในวันเดียว สะท้อนภาวะการปรับฐานครั้งใหญ่และทำให้นักลงทุนตั้งคำถามถึงฟองสบู่ทองคำ ทองคำแม้ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ในแง่การลงทุนกลับมีความเสี่ยงสูง ทั้งจากความผันผวนและระยะเวลาฟื้นตัวที่ยาวนานกว่า หุ้นหรือคริปโต ดังนั้นผู้ลงทุนควรเข้าใจวัฏจักรตลาด กระจายพอร์ต และไม่เทน้ำหนักทั้งหมดในทองคำ

ราคาทองคำร่วงแรงกว่า $118 นักลงทุนเทขายหลังสัญญาณเจรจาการค้าสหรัฐ–จีนคืบหน้า
บทวิเคราะห์ทองคำ

เกิดอะไรขึ้นกับทองคำ? เปิดเหตุผลการร่วงครั้งประวัติศาสตร์ในรอบ 12 ปี
เมื่อคืนวันที่ 21–22 ตุลาคม 2025 ราคาทองคำร่วงแรงที่สุดในรอบหลายปี โดยได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัยร่วมกัน ได้แก่ ดอกเบี้ยเฟดยังสูง ดอลลาร์แข็งค่า ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเพิ่มขึ้น แรงขายทางเทคนิค และความเชื่อมั่นนักลงทุนที่หันไปถือสินทรัพย์เสี่ยงแทน การปรับตัวครั้งนี้สะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างนโยบายการเงิน สภาพเศรษฐกิจโลก และความผันผวนของตลาดทองคำ แนะนำให้นักลงทุนมองเป็นโอกาสเรียนรู้และประเมินความเสี่ยง แทนการมองเป็นวิกฤต.
