简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
ทำไม? ตลาดการเงินยังมีความเสี่ยงผันผวนสูงขึ้น
บทคัดย่อ:สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้เศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณฟื้นตัว แต่ธนาคารกลางสหรัฐฯยังคงกังวลแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หากเกิดการระบาด COVID-19 ระลอกที่สอง
อย่างไรก็ดี การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นปัจจัยที่ตลาดรับรู้ไปแล้ว (Priced-In) จึงต้องระวังปัจจัยเสี่ยง โดยตลาดอาจกลับมาปิดรับความเสี่ยงและผันผวนสูงขึ้น
หากตลาดกังวลการระบาดรอบที่สองของ COVID-10 ในสหรัฐฯและจีนไปพร้อมกับปัญหาการเมืองยุโรปอย่าง Brexit

มุมมองนโยบายการเงิน
การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ในวันพฤหัสฯ ตลาดมองว่า BOE จะ“คง”อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Bank Rate) ไว้ที่ระดับ 0.10% แต่จะ
“เพิ่ม”วงเงินการซื้อสินทรัพย์ (QE) อย่างน้อย 1 แสนล้านปอนด์ สู่ระดับ 7.45 แสนล้านปอนด์เพื่อช่วยประคองการฟื้นตัวเศรษฐกิจและตลาดการเงิน
การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันอังคารตลาดมองว่า BOJ จะ“คง”อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Policy Balance Rate) ไว้ที่ระดับ -0.10% พร้อมทั้งคงเป้าหมายบอนด์ยีลด์ 10ปีไว้ที่ 0.00% ขณะเดียวกัน BOJ จะเพิ่มขนาดโครงการเงินกู้ไร้ดอกเบี้ยและหลักประกันเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการจากวงเงิน 30 ล้านล้านเยน เป็น 60 ล้านล้านเยนโดยหวังว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยเยียวยาบริษัทที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 และช่วยลดจำนวนบริษัทที่ยื่นล้มละลายลง
ดูปฏิทินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
https://live.wikifx.com/th_th/calendar.html
มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก
ฝั่งสหรัฐฯ – ตลาดคาดหวังต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจสหรัฐฯมากขึ้นสะท้อนจากคาดการณ์ยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนพฤษภาคม ที่จะเพิ่มขึ้น 8%จากเดือนก่อนหน้า เช่นเดียวกับยอดผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production) ที่จะโต 3%จากเดือนก่อนหน้า นอกจากนี้ ตลาดจะจับตาถ้อยแถลงของประธานเฟดต่อสภาคองเกรสในประเด็นแนวโน้มเศรษฐกิจและนโยบายการเงินในอนาคต
ฝั่งยุโรป – แม้ตลาดจะมีความหวังต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ชี้จากประมาณการดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจเยอรมนี (ZEW Survey) เดือนมิถุนายนที่เพิ่มขึ้นแตะ60จุด แต่เศรษฐกิจยุโรปยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม อาทิ การเจรจาข้อตกลง Brexitรวมถึงการพิจารณากองทุนเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ (Recovery Fund) ตลอดสัปดาห์นี้
ฝั่งเอเชีย – ตลาดประเมินว่าเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวดีขึ้นในเดือนพฤษภาคม โดยยอดผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production) จะโตได้ 5% เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนที่ขยายตัว 3.9% ขณะที่ยอดการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร (Fixed Asset Investment) ยังคงหดตัว 6% แต่ดีขึ้นจากที่หดตัวกว่า 10% ก่อนหน้า เช่นเดียวกับยอดค้าปลีก(Retail Sales) ที่หดตัวเหลือ 2.3% จากที่หดตัวถึง 7.5% ในเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้แนวโน้มเศรษฐกิจถดถอยจากการระบาดของ COVID-19 จะทำให้ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI)
และธนาคารกลางไต้หวัน (CBC) ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือ 4.25%และ1.00% ตามลำดับ
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

เด็กขายเค้กสู่เศรษฐีฟอเร็กซ์ร้อยล้าน! เรื่องจริงที่สอนว่าความโลภมีราคา
Sandile Shezi เคยถูกยกย่องว่าเป็นเศรษฐีอายุน้อยที่สุดของแอฟริกาใต้ หลังสร้างชื่อจากการเทรด Forex ตั้งแต่อายุ 23 ปี แต่ความสำเร็จของเขาไม่ไร้ข้อวิพากษ์ เส้นทางชีวิตสะท้อนทั้งแรงบันดาลใจจากการเริ่มต้นศูนย์ และความเสี่ยงจากการบริหารเงินของผู้อื่น เรื่องราวของ Shezi เตือนนักลงทุนว่าการเทรดไม่ใช่ทางลัดสู่ความรวย แต่ต้องอาศัยความรู้ วินัย และความรอบคอบ ไม่ให้ความโลภและภาพลวงนำทาง

กำไรหายไม่รู้ตัว! ค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ที่เทรดเดอร์มักมองข้าม
ค่าธรรมเนียมจากโบรกเกอร์เป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อกำไรของนักเทรด Forex อย่างเงียบ ๆ ไม่ว่าจะเป็นสเปรด ค่าคอมมิชชั่น ค่า Swap ค่าฝาก–ถอน หรือค่าธรรมเนียมแฝง การเข้าใจโครงสร้างต้นทุนเหล่านี้ช่วยให้นักเทรดสามารถวางแผนกลยุทธ์ เลือกโบรกเกอร์ให้เหมาะกับสไตล์การเทรด และป้องกันการสูญเสียกำไรโดยไม่จำเป็น นักเทรดมืออาชีพชนะตลาดไม่ใช่เพราะเดาทิศทางถูกเสมอ แต่เพราะบริหารต้นทุนได้อย่างชาญฉลาด

จากปี 2009 ถึงวันนี้! เส้นทางนักลงทุนบิตคอยน์ที่พลิกโลกการเงินทั้งใบ
ตั้งแต่ปี 2009 จนถึงปัจจุบัน นักลงทุน Bitcoin ได้ผ่านวิวัฒนาการจากกลุ่มนักพัฒนาที่เชื่อในอุดมการณ์เงินดิจิทัล สู่กลุ่มนักลงทุนรายย่อยและสถาบันการเงินระดับโลก ตลาด Bitcoin สอนบทเรียนสำคัญว่า การอยู่รอดในสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ได้ขึ้นกับการเดาเร็ว แต่ขึ้นอยู่กับความเข้าใจในความผันผวน การลงทุนด้วยศรัทธาคู่กับความรู้ และการควบคุมอารมณ์ นักลงทุนยุคใหม่ยังใช้เครื่องมือ AI และข้อมูลเชิงลึกในการตัดสินใจ ทำให้ Bitcoin กลายเป็นสินทรัพย์ที่สะท้อนทั้งมูลค่าเทคโนโลยีและเศรษฐกิจดิจิทัลยุคใหม่

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง
WikiFX โบรกเกอร์
octa
JustMarkets
Plus500
FXCM
STARTRADER
IC Markets Global
octa
JustMarkets
Plus500
FXCM
STARTRADER
IC Markets Global
WikiFX โบรกเกอร์
octa
JustMarkets
Plus500
FXCM
STARTRADER
IC Markets Global
octa
JustMarkets
Plus500
FXCM
STARTRADER
IC Markets Global

