简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
ข้อคิดจากนักเทรดในตำนาน
บทคัดย่อ:เจสซี่ ลิเวอร์มอร์ เป็นหนึ่งในนักเทรดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ผ่านมา ได้เหลือคำคมการเทรดอันอยู่เหนือกาล.

บทเรียนที่ 1
“อย่าเคลื่อนไหวหรือโดดเข้าไปหากไม่มีสัญญาณยืนยันจากตลาด เทรดช้าหน่อยแต่มันจะเป็นหลักประกันว่าคุณตัดสินใจถูกหรือผิด”
การรอราคาในตลาดให้เคลื่อนไหวเพื่อยืนยันการคาดการณ์ของคุณนั้นดีกว่ากันเยอะ
นักเทรดบางคนโลภและความอดทนต่ำ:
ถ้าคุณคิดว่าตลาดจะวิ่งขึ้น ให้รอมันขึ้นไปอีกหน่อยแล้วค่อยเข้า ถ้าคิดว่าตลาดจะวิ่งลง ก็แบบเดียวกันคือให้รอสัญญาณก่อน ช้านิดหน่อยอาจทำให้คุณเสียเพิ่มขึ้นไม่กี่พ๊อยท์ซึ่งเทียบไม่ได้เลยถ้าคุณจับเทรนด์ใหญ่ถูก มันจะช่วยกันไม่ให้คุณเทรดแบบลวกๆ
บทเรียนที่ 2
“มันไม่ค่อยฉลาดที่จะเข้าเทรดอีกครั้ง ถ้าครั้งแรกคุณเสียแบบชัดเจน อย่าพยายามเอาคืนที่เสียไป แต่จงจำเรื่องนั้นไว้ให้แม่น”
การเอาคืนที่เสียไปหมายถึงการเทรดเสียมากขึ้น
นักเทรดที่ไม่ประสบความสำเร็จจะมองหาทางฟื้นตัวจากเงินที่เสียไปโดยการซื้อเพิ่มและหวังว่าราคาจะขึ้นไปถึงจุดคุ้มทุน แบบนี้ยิ่งเป็นการเสียเพิ่มอีกเท่าตัว
บทเรียนที่ 3
“คนเราจะเสียเวลาไปอย่างมากเพื่อให้ได้รับบทเรียนจากความผิดพลาด”
การจะเป็นนักเทรดที่ประสบความสำเร็จนั้นใช้เวลาอย่างมาก โดยเรียนรู้จากทฤษฏีหรือเรียนรู้จากความผิดพลาด แต่ความผิดพลาดนั้นใช้เงิน อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกทางหนึ่งคือใช้บัญชีทดลองที่นักเทรดสามารถทดสอบกลยุทธ์ของตนเองโดยใช้เงินจำลองได้.
เมื่อคุณประสบความสำเร็จแล้ว ก็จะทำเงินจริงได้ง่ายขึ้น สมมุติว่าคุณได้กำไร 10% จากเงิน 1,000เหรียญ นั่นคือกำไร 100เหรียญ อย่างไรก็ตามเมื่อคุณประสบความสำเร็จในการปั้นพอร์ตแล้วโดยทำกำไรได้ 10% จากเงินทุน 10,000เหรียญ นั่นหมายถึงกำไร10 เท่าจากเดิมโดยอัตราการทำกำไรเท่าเดิมคือ 10%.

บทเรียนที่ 4
“ถ้าคุณนอนไม่หลับเพราะออเดอร์ที่ยังเปิดค้างอยู่ นั่นคือคุณได้ถลำลึกไปแล้ว”
สิ่งนี้เกิดขึ้นเสมอกับนักเทรดที่โอเวอร์เทรด การเทรดไม่ได้ทำให้คุณรวยในชั่วข้ามคืน มีสุภาษิตจากนักเทรดรุ่นก่อนๆที่กล่าวไว้ว่า “ขายจนถึงเวลานอน” และตรรกะนี้ใช้ได้กับนักเทรดทุกคน.
บทเรียนที่ 5
“ความลุ่มหลงในการลงมือทำอย่างต่อเนื่องโดยไม่คำนึงถึงเงื่อนไขพื้นฐานนั้น เป็นสาเหตุของความสูญเสียมากมายในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท แม้ในกลุ่มมืออาชีพที่พวกเขารู้สึกว่าจะต้องได้เงินกลับบ้านทุกวันราวกับว่าพวกเขาทำงานเพื่อรับค่าจ้างปกติ”
ความใจร้อนนำพาให้นักเทรดมากมายสูญเสียเงิน อย่าเทรดจนกว่าจะถึงโอกาสที่เหมาะสมและจุดที่ความเสี่ยงน้อยกว่าศักยภาพในการทำกำไร คุณต้องมีกฎและกลยุทธ์ในการเทรดสำหรับใช้ตามเพื่อหลีกเลี่ยงกับดักแห่งการโอเวอร์เทรด คุณต้องเรียนรู้การจัดการบัญชีของคุณเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสี่ยงมากเกินไป.
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

เด็กขายเค้กสู่เศรษฐีฟอเร็กซ์ร้อยล้าน! เรื่องจริงที่สอนว่าความโลภมีราคา
Sandile Shezi เคยถูกยกย่องว่าเป็นเศรษฐีอายุน้อยที่สุดของแอฟริกาใต้ หลังสร้างชื่อจากการเทรด Forex ตั้งแต่อายุ 23 ปี แต่ความสำเร็จของเขาไม่ไร้ข้อวิพากษ์ เส้นทางชีวิตสะท้อนทั้งแรงบันดาลใจจากการเริ่มต้นศูนย์ และความเสี่ยงจากการบริหารเงินของผู้อื่น เรื่องราวของ Shezi เตือนนักลงทุนว่าการเทรดไม่ใช่ทางลัดสู่ความรวย แต่ต้องอาศัยความรู้ วินัย และความรอบคอบ ไม่ให้ความโลภและภาพลวงนำทาง

กำไรหายไม่รู้ตัว! ค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ที่เทรดเดอร์มักมองข้าม
ค่าธรรมเนียมจากโบรกเกอร์เป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อกำไรของนักเทรด Forex อย่างเงียบ ๆ ไม่ว่าจะเป็นสเปรด ค่าคอมมิชชั่น ค่า Swap ค่าฝาก–ถอน หรือค่าธรรมเนียมแฝง การเข้าใจโครงสร้างต้นทุนเหล่านี้ช่วยให้นักเทรดสามารถวางแผนกลยุทธ์ เลือกโบรกเกอร์ให้เหมาะกับสไตล์การเทรด และป้องกันการสูญเสียกำไรโดยไม่จำเป็น นักเทรดมืออาชีพชนะตลาดไม่ใช่เพราะเดาทิศทางถูกเสมอ แต่เพราะบริหารต้นทุนได้อย่างชาญฉลาด

จากปี 2009 ถึงวันนี้! เส้นทางนักลงทุนบิตคอยน์ที่พลิกโลกการเงินทั้งใบ
ตั้งแต่ปี 2009 จนถึงปัจจุบัน นักลงทุน Bitcoin ได้ผ่านวิวัฒนาการจากกลุ่มนักพัฒนาที่เชื่อในอุดมการณ์เงินดิจิทัล สู่กลุ่มนักลงทุนรายย่อยและสถาบันการเงินระดับโลก ตลาด Bitcoin สอนบทเรียนสำคัญว่า การอยู่รอดในสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ได้ขึ้นกับการเดาเร็ว แต่ขึ้นอยู่กับความเข้าใจในความผันผวน การลงทุนด้วยศรัทธาคู่กับความรู้ และการควบคุมอารมณ์ นักลงทุนยุคใหม่ยังใช้เครื่องมือ AI และข้อมูลเชิงลึกในการตัดสินใจ ทำให้ Bitcoin กลายเป็นสินทรัพย์ที่สะท้อนทั้งมูลค่าเทคโนโลยีและเศรษฐกิจดิจิทัลยุคใหม่

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง
WikiFX โบรกเกอร์
VT Markets
IC Markets Global
Plus500
Vantage
FXCM
GTCFX
VT Markets
IC Markets Global
Plus500
Vantage
FXCM
GTCFX
WikiFX โบรกเกอร์
VT Markets
IC Markets Global
Plus500
Vantage
FXCM
GTCFX
VT Markets
IC Markets Global
Plus500
Vantage
FXCM
GTCFX

