简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
ทำไมรายงาน Non-Farm ถึงเปลี่ยนเกมการลงทุนได้
บทคัดย่อ:รายงาน Non-Farm Payrolls ของสหรัฐฯ เป็นข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่นักลงทุนทั่วโลกจับตามองทุกเดือน เนื่องจากสามารถส่งผลกระทบต่อทิศทางดอกเบี้ยและตลาดการเงินโลกในทันที ตัวเลขการจ้างงาน อัตราว่างงาน และค่าแรงเฉลี่ย เป็นตัวชี้วัดสุขภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อนโยบายของ Fed หากตัวเลขออกมาดีกว่าคาด ตลาดมักตีความว่า Fed อาจขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่ตัวเลขต่ำกว่าคาดอาจนำไปสู่การผ่อนคลายนโยบายการเงิน นักลงทุนควรติดตามตัวเลขคาดการณ์ เปรียบเทียบกับผลจริง และพิจารณาภาพรวมเศรษฐกิจเพื่อวางกลยุทธ์การลงทุนอย่างรอบคอบ

หากพูดถึงหนึ่งในตัวเลขที่นักลงทุนทั่วโลกจับตามองมากที่สุดทุกเดือน “Non-Farm Payrolls” หรือรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ คือหนึ่งในนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย ตัวเลขนี้อาจฟังดูเหมือนข้อมูลเศรษฐกิจธรรมดา แต่ในความเป็นจริง มันสามารถสร้างแรงกระเพื่อมให้กับตลาดการเงินทั่วโลกได้ในเวลาไม่กี่วินาทีหลังประกาศ
Non-Farm Payrolls คืออะไร
รายงาน Non-Farm Payrolls (มักเรียกสั้น ๆ ว่า Non-Farm) เป็นข้อมูลที่จัดทำโดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เพื่อแสดงจำนวนตำแหน่งงานใหม่ที่เกิดขึ้นในเดือนที่ผ่านมา โดยไม่รวมภาคเกษตร งานราชการบางประเภท และงานภาคครัวเรือน
นอกจากจำนวนงานแล้ว รายงานยังรวมถึงอัตราการว่างงาน และการเปลี่ยนแปลงของค่าแรงเฉลี่ยรายชั่วโมง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นตัวสะท้อน “สุขภาพ” ของตลาดแรงงานสหรัฐฯ
ทำไมตลาดถึงสนใจตัวเลขนี้มาก
สหรัฐฯ เป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดังนั้นข้อมูลเศรษฐกิจจากสหรัฐฯ มักส่งผลต่อภาพรวมของตลาดการเงินทั่วโลกโดยตรง โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve หรือ Fed)
ตัวเลข Non-Farm มีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางดอกเบี้ย หากตัวเลขแรงงานออกมาดีเกินคาด เช่น จำนวนจ้างงานสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ และค่าแรงเพิ่มขึ้น ก็อาจแปลว่าเศรษฐกิจกำลัง “ร้อนแรง” จน Fed อาจจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ในทางกลับกัน หากตัวเลขต่ำกว่าคาดมาก ก็อาจทำให้ตลาดคาดว่า Fed จะผ่อนคลายนโยบายการเงิน ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนลง และตลาดหุ้นฟื้นตัวได้
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจริงในตลาด
ผลของตัวเลข Non-Farm มักเกิดขึ้น “ทันที” และ “รุนแรง” โดยเฉพาะในตลาดที่มีความไวต่อข่าว เช่น ตลาดค่าเงิน (Forex) ตลาดทองคำ และตลาดหุ้นสหรัฐฯ
ตัวอย่างเช่น
- ถ้าตัวเลข Non-Farm สูงกว่าคาด ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มักจะแข็งค่าขึ้นในเวลาไม่กี่นาที
- หากอัตราการว่างงานลดลงเกินคาด ดัชนีหุ้นบางกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจภายในประเทศก็อาจปรับตัวสูงขึ้น
- ขณะเดียวกัน ราคาทองคำอาจลดลง เพราะนักลงทุนย้ายเงินไปถือสินทรัพย์ที่มีผลตอบแทนตามดอกเบี้ย
นักลงทุนควรเตรียมตัวอย่างไร
แม้รายงาน Non-Farm จะออกเพียงเดือนละครั้ง (โดยปกติคือวันศุกร์แรกของเดือน) แต่ผลของมันสามารถอยู่ในตลาดได้หลายวัน นักลงทุนจึงควร
- ติดตามตัวเลขคาดการณ์จากนักวิเคราะห์ก่อนวันประกาศ
- พิจารณาความแตกต่างระหว่าง “ตัวเลขจริง” กับ “ตัวเลขคาดการณ์”
- ไม่รีบเข้าเทรดทันทีในช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูง
- มองภาพรวมประกอบ เช่น แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อ และท่าทีของ Fed
สรุป
Non-Farm Payrolls เป็นมากกว่าข่าวเศรษฐกิจรายเดือน เพราะมันเป็นสัญญาณสำคัญที่บอกได้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังมุ่งหน้าไปทางไหน นักลงทุนที่เข้าใจและวิเคราะห์ข้อมูลชุดนี้ได้อย่างแม่นยำ จะมีความได้เปรียบในการตัดสินใจลงทุน ไม่ว่าจะในตลาดหุ้น ค่าเงิน หรือทองคำ
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

เด็กขายเค้กสู่เศรษฐีฟอเร็กซ์ร้อยล้าน! เรื่องจริงที่สอนว่าความโลภมีราคา
Sandile Shezi เคยถูกยกย่องว่าเป็นเศรษฐีอายุน้อยที่สุดของแอฟริกาใต้ หลังสร้างชื่อจากการเทรด Forex ตั้งแต่อายุ 23 ปี แต่ความสำเร็จของเขาไม่ไร้ข้อวิพากษ์ เส้นทางชีวิตสะท้อนทั้งแรงบันดาลใจจากการเริ่มต้นศูนย์ และความเสี่ยงจากการบริหารเงินของผู้อื่น เรื่องราวของ Shezi เตือนนักลงทุนว่าการเทรดไม่ใช่ทางลัดสู่ความรวย แต่ต้องอาศัยความรู้ วินัย และความรอบคอบ ไม่ให้ความโลภและภาพลวงนำทาง

กำไรหายไม่รู้ตัว! ค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ที่เทรดเดอร์มักมองข้าม
ค่าธรรมเนียมจากโบรกเกอร์เป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อกำไรของนักเทรด Forex อย่างเงียบ ๆ ไม่ว่าจะเป็นสเปรด ค่าคอมมิชชั่น ค่า Swap ค่าฝาก–ถอน หรือค่าธรรมเนียมแฝง การเข้าใจโครงสร้างต้นทุนเหล่านี้ช่วยให้นักเทรดสามารถวางแผนกลยุทธ์ เลือกโบรกเกอร์ให้เหมาะกับสไตล์การเทรด และป้องกันการสูญเสียกำไรโดยไม่จำเป็น นักเทรดมืออาชีพชนะตลาดไม่ใช่เพราะเดาทิศทางถูกเสมอ แต่เพราะบริหารต้นทุนได้อย่างชาญฉลาด

จากปี 2009 ถึงวันนี้! เส้นทางนักลงทุนบิตคอยน์ที่พลิกโลกการเงินทั้งใบ
ตั้งแต่ปี 2009 จนถึงปัจจุบัน นักลงทุน Bitcoin ได้ผ่านวิวัฒนาการจากกลุ่มนักพัฒนาที่เชื่อในอุดมการณ์เงินดิจิทัล สู่กลุ่มนักลงทุนรายย่อยและสถาบันการเงินระดับโลก ตลาด Bitcoin สอนบทเรียนสำคัญว่า การอยู่รอดในสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ได้ขึ้นกับการเดาเร็ว แต่ขึ้นอยู่กับความเข้าใจในความผันผวน การลงทุนด้วยศรัทธาคู่กับความรู้ และการควบคุมอารมณ์ นักลงทุนยุคใหม่ยังใช้เครื่องมือ AI และข้อมูลเชิงลึกในการตัดสินใจ ทำให้ Bitcoin กลายเป็นสินทรัพย์ที่สะท้อนทั้งมูลค่าเทคโนโลยีและเศรษฐกิจดิจิทัลยุคใหม่

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง
WikiFX โบรกเกอร์
XM
AVATRADE
EC Markets
JustMarkets
Exness
Vantage
XM
AVATRADE
EC Markets
JustMarkets
Exness
Vantage
WikiFX โบรกเกอร์
XM
AVATRADE
EC Markets
JustMarkets
Exness
Vantage
XM
AVATRADE
EC Markets
JustMarkets
Exness
Vantage

