บทคัดย่อ:ทฤษฎี "Greater Fool" หรือ “ทฤษฎีคนโง่ที่ใหญ่กว่า” อธิบายพฤติกรรมการลงทุนที่มุ่งหวังเพียงการขายต่อให้ผู้ที่ยอมจ่ายแพงกว่า โดยไม่สนใจมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์ ซึ่งแม้จะดูเหมือนทำกำไรได้ในระยะสั้น แต่สุดท้ายอาจทำให้นักลงทุนกลายเป็น "คนโง่คนสุดท้าย" ที่ต้องรับภาระขาดทุน ทฤษฎีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการลงทุนตามกระแส และชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของสติ การวิเคราะห์ และการรู้เท่าทันอารมณ์ของตัวเองในการลงทุนอย่างยั่งยืน.

แอดจะพามารู้จักกับหนึ่งในทฤษฎีที่ฟังดูตลกแต่เจ็บจริง นั่นก็คือ “ทฤษฎีคนโง่ที่ใหญ่กว่า” (Greater Fool Theory) ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับพฤติกรรมการลงทุนที่หวังพึ่งโชคและกระแส มากกว่าการวิเคราะห์มูลค่าที่แท้จริง และถ้าคุณไม่อยากเป็น “คนโง่คนสุดท้าย” ที่ต้องติดดอยหาทางลงไม่ได้ล่ะก็... มาฟังให้ดี!
Greater Fool Theory คืออะไร?
ลองนึกภาพว่าคุณกำลังอยู่ในตลาดคริปโต เหรียญหนึ่งกำลังเป็นกระแส ราคาพุ่งขึ้นทุกวัน คนแห่กันซื้อตามแบบไม่สนใจพื้นฐานของเหรียญนั้นเลย เพราะทุกคนเชื่อว่าจะมีคนที่ยอมซื้อต่อในราคาที่สูงกว่าเสมอ แต่ปัญหาคือ... แล้วถ้าถึงจุดที่ไม่มีคนอยากซื้อต่ออีกล่ะ?
ทฤษฎี Greater Fool บอกว่าตราบใดที่ยังมีคน “โง่กว่า” เข้ามาซื้อต่อไปเรื่อย ๆ ราคาก็จะยังขึ้นได้ แต่สุดท้ายแล้ว มันคือเกมเก้าอี้ดนตรีที่ใครช้า ใครประมาท คนนั้นก็ต้องเป็นคนที่แบกรับความเสียหายหนักสุด!
ตัวอย่าง Greater Fool ที่เคยเกิดขึ้นจริง
- วิกฤตฟองสบู่ดอกทิวลิป (Tulip Mania)
นี่คือตำนานแห่งการเก็งกำไรสุดโต่งของศตวรรษที่ 17 ที่เนเธอร์แลนด์ ดอกทิวลิปถูกซื้อขายกันในราคาที่สูงลิ่วเพราะทุกคนเชื่อว่ามันจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงจุดหนึ่งที่ไม่มีใครยอมซื้อต่อ ราคาเลยดิ่งลงจนเศรษฐกิจเสียหายหนัก ใครที่ซื้อมาตอนราคาสูงสุดก็กลายเป็น Greater Fool ไปโดยปริยาย
- ตลาดคริปโตและเหรียญ “Meme”
เราคงเคยเห็นกันมาแล้วกับเหรียญมีมที่ราคาพุ่งขึ้นเพราะกระแสโซเชียลมีเดีย แต่พอความสนใจหายไป นักลงทุนที่เข้าซื้อช้าเกินไปก็จะติดดอย และถูกทิ้งให้นั่งรอคอย “คนโง่ที่ใหญ่กว่า” ที่อาจไม่มีวันมาเลย...
ทำไม “Greater Fool” ถึงมีอยู่ทุกยุคทุกสมัย?
- ความโลภ (Greed): คนเรามักอยากรวยเร็ว และคิดว่าตัวเองจะออกจากเกมได้ทัน
- FOMO (Fear of Missing Out): กลัวพลาดโอกาสทอง เห็นคนอื่นรวยแล้วอยากเข้าร่วมวงด้วย
- พฤติกรรมเลียนแบบ (Herd Mentality): เมื่อคนส่วนใหญ่แห่ซื้อ เรามักจะรู้สึกว่ามันต้องเป็นโอกาสที่ดี ทั้งที่อาจไม่ใช่เลย!
จะหลีกเลี่ยงการเป็น “Greater Fool” ได้อย่างไร?
- ศึกษามูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์ – อย่าซื้อเพราะ “เค้าบอกว่าดี” แต่ให้วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานก่อนเสมอ
- อย่าลงทุนตามอารมณ์ – ถ้าแรงจูงใจในการซื้อคือ FOMO ให้ถอยมาก้าวหนึ่งแล้วคิดใหม่!
- รู้ว่าเมื่อไหร่ควรพอ – หากสินทรัพย์ขึ้นราคาเร็วผิดปกติ ให้ตั้งคำถามว่าเกิดจากมูลค่าจริงหรือเป็นเพียงกระแส
สรุป ไม่อยากเป็น Greater Fool ต้องลงทุนอย่างมีสติ! ☺
ทฤษฎี Greater Fool เป็นเครื่องเตือนใจว่า การลงทุนที่อาศัยความหวังว่าจะมี “คนโง่กว่า” มาซื้อต่อ อาจนำไปสู่ความเสียหายที่เลี่ยงไม่ได้ การลงทุนที่ดีต้องอิงกับมูลค่าที่แท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่การคาดหวังว่าราคาจะขึ้นไปตลอด
จำไว้ว่า “คนโง่ที่ใหญ่กว่า” อาจมีอยู่เสมอ...แต่ถ้าวันหนึ่งไม่มีใครแล้ว คนสุดท้ายอาจเป็นคุณ!
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
