简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
ราคาน้ำมันร่วงจากแรงกดดันของเงินดอลลาร์ และน้ำมันคงคลังสหรัฐฯ
บทคัดย่อ:ราคาน้ำมันร่วงจากแรงกดดันของเงินดอลลาร์ และน้ำมันคงคลังสหรัฐฯ

ราคาน้ำมันปรับลดลงในตลาดเอเชียวันนี้ เนื่องจากแรงกดดันของเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า ขณะที่นักลงทุนเกิดยังมีความลังเลเกี่ยวกับทิศทางของเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ย ขณะที่การเพิ่มขึ้นของสินค้าคงคลังน้ำมันในสหรัฐฯ ที่น่าประหลาดใจก็เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ชะลอตัว
ราคาน้ำมันดิบยังเผชิญกับการเทขายทำกำไรหลังจากความกลัวเรื่องการหยุดชะงักของอุปทานในรัสเซียและตะวันออกกลางทำให้ราคาพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนมิถุนายน
เมื่อเวลา 21:05 ET (01:05 GMT) น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนสิงหาคมลดลง 0.4% เป็น 84.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส ปรับลง 0.4% เป็น 80.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิด
ข้อมูลจากรัฐบาลได้แสดงให้เห็นว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สินค้าคงคลัง น้ำมันดิบ ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นประมาณ 3.6 ล้านบาร์เรล (mb) ในสัปดาห์ของวันที่ 21 มิถุนายน ซึ่งเกินความคาดหมายที่คาดว่าจะลดลง 2.6 mb
แต่สิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือการเพิ่มขึ้นที่ 2.7 mb ใน สินค้าคงคลังน้ำมันเบนซิน ซึ่งบ่งชี้ว่าการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงอ่อนแอแม้จะเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยวที่มีการเดินทางหนาแน่น
สินค้าคงคลังที่เพิ่มขึ้นได้สร้างความกังวลว่าอุปสงค์น้ำมันเชื้อเพลิงในสหรัฐฯ กำลังชะลอตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประเทศต้องเผชิญกับเงินเฟ้อที่ยังคงสูงและอัตราดอกเบี้ยที่สูง
ดอลลาร์แข็งค่ากดดันราคาน้ำมัน ก่อนสัญญาณเศรษฐกิจเพิ่มเติม
การแข็งค่าของเงิน ดอลลาร์ ซึ่งแตะระดับสูงสุดในรอบสองเดือน ได้กดดันราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงให้ความสำคัญกับเงินดอลลาร์ก่อนจะมีสัญญาณทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้
ข้อมูล GDP ที่ปรับปรุงแล้วของไตรมาสแรกก็จะมีการประกาศในวันนี้อีกด้วย
ข้อมูลดัชนีราคา PCE ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดเชื่อมั่น ก็กำลังจะมีการประกาศในวันศุกร์และคาดว่าจะมีผลต่อแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย
ตลาดยังคงรอคอยการดีเบตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งแรกในสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นระหว่างผู้สมัครพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันที่เป็นคู่แข่งหลักกันอย่าง Joe Biden และ Donald Trump ในวันนี้
แม้จะมีความอ่อนแอบางอย่างในสัปดาห์นี้ แต่ราคาน้ำมันก็ยังคงเพิ่มขึ้นถึง 4% ในเดือนมิถุนายน เนื่องจากนักลงทุนยังคงให้ความสำคัญกับค่าพรีเมี่ยมความเสี่ยงต่ำท่ามกลางความวุ่นวายในรัสเซียและตะวันออกกลาง
การลดอุปทานอย่างต่อเนื่องโดยองค์กรประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) ก็คาดว่าจะสนับสนุนราคาน้ำมันดิบในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก Investing.TH
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
อ่านเพิ่มเติม

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

บัญชี ECN คืออะไร? ทางลัดสู่ราคาจริงที่เทรดเดอร์มืออาชีพเลือกใช้!
บัญชี ECN (Electronic Communication Network) เป็นระบบเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อ–ขายตรงไปยังตลาดกลางหรือผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้นักเทรดเห็นราคาจริง (Raw Price) โดยไม่มีการปรับแต่งจากโบรกเกอร์ ข้อดีของบัญชี ECN ได้แก่ ความโปร่งใส สเปรดต่ำ ความเร็วสูง และสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตลาด ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, News Trading หรือ Swing Trading อย่างไรก็ตามบัญชี ECNต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูงและมีความผันผวนมาก นักลงทุนควรเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีใบอนุญาตครบถ้วน การใช้บัญชี ECNช่วยให้นักเทรดวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา และเข้าถึงตลาด Forex อย่างแท้จริง

เข้าใจคำว่า ‘มาจิ้น’ ผิด ชีวิตเทรดพัง! ควรรู้ให้ลึกก่อนหมดตัว
มาจิ้น (Margin) คือเงินประกันที่นักเทรดต้องฝากกับโบรกเกอร์เพื่อเปิดออเดอร์ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินเต็มจำนวน การเข้าใจมาจิ้นสำคัญเพราะช่วยให้ใช้ leverage ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุม Lot Size และ Stop Loss เพื่อลดความเสี่ยง Margin Call นักเทรดมืออาชีพใช้มาจิ้นเป็นเครื่องมือจัดการเงินทุน สร้างสมดุลระหว่างกำไรและความเสี่ยง ทำให้พอร์ตสามารถอยู่รอดในตลาดที่ผันผวนได้
WikiFX โบรกเกอร์
HFM
AVATRADE
ATFX
Vantage
JustMarkets
Ultima
HFM
AVATRADE
ATFX
Vantage
JustMarkets
Ultima
WikiFX โบรกเกอร์
HFM
AVATRADE
ATFX
Vantage
JustMarkets
Ultima
HFM
AVATRADE
ATFX
Vantage
JustMarkets
Ultima
